ระบบไฟฟ้า ทำไมต้องตรวจ ?

การตรวจบ้านในหมวดงานไฟฟ้า จำเป็นมากที่ผู้ตรวจจะต้องมีความชำนาญและเข้าใจ ด้วยขนาดของบ้านในปัจจุบัน มีจุดที่เป็นสวิตช์ ปลั๊กเป็นจำนวนเกือบร้อยจุดในบ้าน 1 หลัง เพื่อสามารถใช้เครื่องมือตรวจสอบได้อย่างถูกต้อง

ปัญหาของระบบไฟฟ้า ส่วนมากหากมีแต่มักจะมองไม่เห็นโดยการทดสอบด้วยสายตา ปกติเจ้าของบ้านมักจะเปิดปิดไฟ ทดสอบสวิตช์ หรือทดสอบการใช้งานของปลั๊ก ซึ่งอาจมองข้ามจุดอื่น ๆ ไปได้ครับ

ผมขอแนะนำจุดที่สมควรตรวจสอบสำคัญๆ เป็นข้อๆ ดังนี้นะครับ นอกเหนือจากที่เจ้าของบ้านตรวจเช็คเองได้ด้วยสายตาหรือหรือทดสอบเปิดปิดครับ

1. ขนาดของสาย ปกติขนาดของสายไฟ ในบ้านปัจจุบันนิยมใช้แบบร้อยท่อ ด้านในเป็นสาย THW หรือแบบสายทองแดงหุ้มด้วยฉนวนพลาสติก มีหลายขนาด ตรงนี้ผู้ตรวจจะทดสอบโดยใช้วิธีการเช็คดูที่ ขั้วของจุดเชื่อมต่อทั้ง 2 ด้าน โดยปกติขนาดของสายไฟต้อง มีขนาดเพียงพอให้สายไฟไม่ร้อนในขณะใช้งานรวมของทั้งสาย เช่นสายหลอดไฟจะใช้ขนาด R= 2.5 มม. ขึ้นไป ตรงนี้ผู้ตรวจจะทำการสุ่มตรวจตรงที่สายเข้าตัวหลอด และตรวจแหล่งจ่ายจากตู้เมน ว่ามีขนาดถูกต้องหรือไม่ การตรวจแบบนี้ จะทำในส่วนของสายแอร์ น้ำอุ่น เตาอบ หรือปลั๊ก ที่ใช้สายไฟขนาดไม่เหมือนกันครับ สาเหตุที่ใช้ไม่เหมือนกันเพราะความแตกต่างของกำลังไฟฟ้าที่ต้องการ อธิบายง่ายๆ คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าตรงไหนใช้ไฟฟ้ามาก สายไฟก็จะขนาดใหญ่ขึ้นตามนั่นเองครับ

2.ความถูกต้องของการเข้าสาย บางครั้งเครื่องมือที่เช็คไฟฟ้า พบว่าไฟฟ้าในกระแสไม่ได้อยู่ในระหว่างค่า 220-240 โวลต์ ตามมาตรฐานการไฟฟ้าเมืองไทย เช่นบางจุดพบไฟฟ้า 180 โวลต์ บางจุดพบ 150 โวลต์ อาจส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายได้ สาเหตุส่วนมากเกิดจากการเข้าสายไม่แน่น หรือหลวม ทำให้วงจรเดินไม่เต็มที่ ตรงพวกนี้แค่จัดการให้แน่นหนา หรือทำให้ สาย N หรือ L อยู่ในตำแหน่งที่เข้า lock แล้วก็จะหายไป ตรงนี้จะสังเกตยาก ต้องใช้เครื่องมือช่วยอ่านค่าในแต่ละจุดของตัวบ้านครับ

3.สายดิน ควรจะมีทุกจุดที่เป็นปลั้กไฟฟ้านะครับ จะช่วยตอนหากเกิดไฟรั่ว ตัวไฟฟ้าที่รั่วจะรั่วลงดิน เราควรตรวจว่ามีการต่อสายดินเข้ากับตัวปลั๊กทุกจุดของตัวบ้าน ขนาดของท่อ สายไฟ มีขนาดไม่แน่นจนเกินไป และจุดที่ตอกตัวเหล็กลงดินหลังบ้าน มีลักษณะถูกต้อง ความยาวของแท่งหลักดิน มีขนาดถูกต้อง ติดตั้งแข็งแรง จับโยกดูไม่หลุด

4.สุดท้ายเรื่องเบรกเกอร์

เบรกเกอร์นี่สำคัญสุดๆ เช่นกันครับ ขนาดจองเบรกเกอร์ ปกติ จะมีขนาดมาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละประเภทของการใช้งาน เช่น สวิตช์ไฟ หลอดไฟ แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น หรือประเภทพวกเบรกเกอร์กันดูด ที่ช่วยป้องกันได้ดีมากขึ้น ในกลุ่มพวกอุปกรณ์ที่มีโอกาสช็อตสูง อันนี้ต้องคำนวณเบรกเกอร์ให้สามารถทำและเลือกใช้ได้เหมาะสมกับขนาดของการใช้งานครับ

สรุปนะครับ การตรวจสอบระบบไฟฟ้า ควรให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจนะครับ เช่นวิศวกร หรือช่างไฟฟ้าในอาคาร ก็จะช่วยให้เราได้บ้านที่มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ ใช้งานได้ระยะยาวอย่างไม่มีปัญหา หรืออันตรายใดๆ จากการใช้งานครับ

ขอบคุณภาพ: www.pexels.com