
เจาะลึก! 5 อันดับปัญหาที่พบบ่อยที่สุดในการตรวจบ้าน ที่คุณอาจมองข้าม
การซื้อบ้านคือการลงทุนครั้งใหญ่ แต่ภายใต้ความสวยงามของบ้านใหม่หรือบ้านมือสอง อาจมีปัญหาซ่อนเร้นอยู่มากมายที่รอวันสร้างความเสียหายและค่าใช้จ่ายก้อนโตในอนาคต จากข้อมูลใน Infographic ที่เรานำเสนอไปก่อนหน้านี้ วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง 5 ปัญหายอดฮิตที่ทีมวิศวกรตรวจพบบ่อยที่สุด เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดขึ้นว่าทำไมการตรวจบ้านโดยผู้เชี่ยวชาญถึงสำคัญจริงๆ
1. หลังคารั่วซึม และปัญหาจากฝ้าเพดาน
นี่คือปัญหาคลาสสิกที่สร้างความปวดหัวได้มากที่สุด เพราะมักจะไม่แสดงอาการจนกว่าจะถึงฤดูฝน การรั่วซึมเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่ความเสียหายรุนแรงได้
ปัญหาคืออะไร?: น้ำฝนซึมผ่านกระเบื้องหลังคาที่แตก, วางไม่สนิท, หรือบริเวณรอยต่อที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดคราบน้ำบนฝ้าเพดาน ฝ้าบวมพอง และอาจเกิดเชื้อราตามมา
ทำไมถึงอันตราย?: ความชื้นสะสมเป็นเวลานานสามารถทำลายโครงสร้างหลังคาที่เป็นไม้หรือเหล็ก, ทำให้ฝ้าเพดานพังถล่มลงมา, เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหากน้ำหยดโดนสายไฟ และเชื้อราก็เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของผู้อยู่อาศัย
ผู้เชี่ยวชาญตรวจอย่างไร?: วิศวกรจะปีนขึ้นไปตรวจสอบสภาพกระเบื้องหลังคาโดยตรง, ใช้กล้องส่องความร้อน (Thermal Camera) สแกนหาความชื้นที่ซ่อนอยู่ใต้ฝ้าซึ่งตาเปล่ามองไม่เห็น และตรวจสอบร่องรอยคราบน้ำในทุกจุด
2. ผนังร้าว หรือ สีไม่เรียบร้อย
รอยร้าวบนผนังไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาโครงสร้างได้
ปัญหาคืออะไร?: มีตั้งแต่รอยร้าวเล็กๆ ที่ผิวปูนฉาบ (รอยร้าวลายงา) ไปจนถึงรอยร้าวแนวทแยงหรือแนวดิ่งที่ลึกถึงเนื้อคอนกรีต รวมถึงงานสีที่บวมพอง ลอกล่อน หรือทาไม่สม่ำเสมอ
ทำไมถึงอันตราย?: รอยร้าวเล็กๆ อาจเกิดจากการหดตัวของปูน แต่รอยร้าวขนาดใหญ่และลึกอาจบ่งชี้ถึงการทรุดตัวของโครงสร้างที่ไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไขได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก
ผู้เชี่ยวชาญตรวจอย่างไร?: ตรวจสอบประเภทและทิศทางของรอยร้าวเพื่อประเมินสาเหตุเบื้องต้น และใช้เครื่องมือวัดระดับเพื่อดูว่ามีการทรุดตัวของโครงสร้างหรือไม่
3. พื้นไม่เรียบ หรือ ลาดเอียงผิดปกติ
ปัญหาเรื่องพื้นอาจสังเกตได้ยากในตอนแรก แต่จะส่งผลกระทบต่อการใช้งานในระยะยาว
ปัญหาคืออะไร?: พื้นกระเบื้องหรือพื้นลามิเนตปูไม่เรียบ มีลักษณะเป็นแอ่งหรือนูนขึ้นมา, พื้นห้องน้ำมีความลาดเอียงไม่พอที่จะระบายน้ำไปยังท่อระบายน้ำ (Floor Drain) ทำให้เกิดน้ำขัง
ทำไมถึงอันตราย?: พื้นที่ไม่เรียบอาจทำให้สะดุดล้มได้ โดยเฉพาะกับเด็กและผู้สูงอายุ ส่วนน้ำที่ขังในห้องน้ำเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและอาจซึมลงไปทำลายโครงสร้างชั้นล่างได้
ผู้เชี่ยวชาญตรวจอย่างไร?: ใช้เครื่องวัดระดับน้ำเลเซอร์ (Laser Level) เพื่อตรวจสอบความเรียบและความลาดเอียงของพื้นทั่วทั้งบ้าน ซึ่งให้ผลที่แม่นยำกว่าการใช้ลูกแก้วกลิ้ง
4. ระบบไฟฟ้ารั่ว หรือติดตั้งผิดมาตรฐาน
ปัญหาที่มองไม่เห็น แต่เป็นอันตรายถึงชีวิตโดยตรง
ปัญหาคืออะไร?: การเดินสายไฟที่ไม่มีท่อร้อยสาย, ขนาดสายไฟไม่เหมาะสมกับปริมาณการใช้ไฟ, ไม่มีการติดตั้งสายดิน หรือติดตั้งแต่ไม่ได้มาตรฐาน, ตู้ควบคุมไฟ (Consumer Unit) ไม่มีเครื่องตัดไฟรั่ว (RCBO)
ทำไมถึงอันตราย?: ไฟรั่วอาจทำให้เกิดไฟดูดซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต และการใช้สายไฟผิดขนาดอาจทำให้เกิดความร้อนสูงจนเป็นสาเหตุของไฟฟ้าลัดวงจรและเพลิงไหม้ได้
ผู้เชี่ยวชาญตรวจอย่างไร?: ใช้เครื่องมือตรวจสอบการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า (Clamp Meter) และตรวจสอบการติดตั้งสายดิน รวมถึงการเดินสายไฟทั้งหมดว่าเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่
5. ระบบท่อประปาอุดตัน หรือรั่วซึม
ปัญหาน้ำๆ ที่อาจสร้างความเสียหายใหญ่กว่าที่คิด
ปัญหาคืออะไร?: การอุดตันจากเศษวัสดุก่อสร้างที่ถูกทิ้งไว้ในท่อ, การรั่วซึมบริเวณข้อต่อใต้อ่างล้างหน้าหรือโถสุขภัณฑ์, การติดตั้งปั๊มและแท็งก์น้ำผิดวิธี
ทำไมถึงอันตราย?: ท่ออุดตันทำให้การใช้งานไม่สะดวกและอาจส่งกลิ่นเหม็นรบกวน ส่วนการรั่วซึมแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ตู้เฟอร์นิเจอร์บวมพองเสียหายและเกิดเชื้อราได้
ผู้เชี่ยวชาญตรวจอย่างไร?: ทดลองเปิด-ปิดน้ำทุกจุดเพื่อตรวจสอบแรงดันและการระบายน้ำ, ตรวจสอบร่องรอยการรั่วซึมตามข้อต่อต่างๆ และตรวจสอบการทำงานของระบบปั๊มน้ำทั้งหมด
ปัญหาเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่พบบ่อย แต่ก็เพียงพอที่จะย้ำเตือนว่า การลงทุนให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามา "ตรวจบ้านก่อนโอน" คือการตัดสินใจที่คุ้มค่าที่สุด เพื่อให้คุณได้บ้านที่ปลอดภัยและไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับค่าซ่อมแซมในภายหลังครับ
บทความแนะนำ

เครื่องน้ำอุ่นเสียเหรอ น้ำไม่ร้อนเลย แล้วจะทำไงดี?

การเลือกซื้อบ้าน ทำไมต้องบ้านหัวมุม หรือแค่ความเชื่อเก่าๆ?

วิธีตรวจรับบ้าน ในส่วนงานหลังคา

ทำไมถึงต้องตรวจรับบ้านใหม่ก่อนโอน
